เราต้องเข้าใจว่า “วิชา” คือภาพสะท้อนของความสัมพันธ์ภายในของสรรพสิ่ง ซึ่งมา จาก “หลักวิชา” ที่กำหนดขึ้นจาก “กฎของความจริงแท้ ” (Reality) ที่ดำรงอยู่จริง (Existence) ย่อมแน่ นอนและถูกต้องตลอดไป จึงเป็น “สัจธรรม” (Truth) ที่มีเพียงหนึ่งเดียว
ดังนั้น ถ้าเป็นนักวิชาการจริง ก็จะไม่มีคำพูดที่ว่า “นักวิชาการก็มีความคิดที่หลากหลาย มีจุดการมองที่แตกต่างกันได้” เพราะที่ว่านั้น คือ คุณสมบัติของนักทฤษฎี ไม่ใช่คุณสมบัติของนักวิชาการ โดยเฉพาะยังเป็นทฤษฎีที่ผิดอีกด้วย ซึ่ง เรียกทางภาษาบาลีว่า “มิจฉาทิฏฐิ” เพราะ ถ้าเป็นนักวิชาการจริงต้องเห็นตรงกันหมด เพราะวิชา หมายถึง ความจริงเพียงหนึ่งเดียว
ด้วยเหตุนี้ หลักวิชาจึงเป็นเครื่องตัดสินความถูกผิดของทฤษฎีและนโยบาย ดังนั้นเมื่อทฤษฎี หรือ “ความเห็น” (Theory) หรือนโยบายขัดแย้งกับหลักวิชา จะต้องถือเอาหลักวิชาเป็นหลัก เพราะ ทฤษฎีและนโยบายนั้นกำหนดขึ้นจากความต้องการของมนุษย์ จึงเปลี่ยนแปลงได้และไม่แน่นอนว่า จะถูกต้องเสมอไป แต่หลักวิชากำหนดขึ้นจากกฎของความจริงแท้ จึงถูกต้องและแม่นยำเสมอไป และ สามารถนำเอาไปแก้ปัญหาใดๆ ก็ได้ เช่น นโยบาย 66/2523 เป็นต้น
ผมเห็นผู้ที่อ้างตนเองว่าเป็น “นักวิชาการ” มาแสดงความคิดเห็นทางหน้าจอทีวี ส่วนมากเมื่อ ตอบคำถามกับพิธีกรมักจะพูดว่า “ในปัญหานี้ ผมมีความเห็นว่า ผมคิดว่า ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น น่าจะเป็นอย่างนี้ บางครั้งก็เถียงกันเองหน้าจอทีวี หน้าดำหน้าแดง เพื่อจะเอาชนะกัน สิ่งที่ท่านแสดง ออกมานั้น แท้จริงแล้วเป็นความเห็นของท่านเองทั้งนั้น หาใช่หลักวิชาไม่ เพราะถ้าเป็นหลักวิชาจริง จะเป็นสิ่งเดียวกันและไม่โต้แย้งกัน”
บางท่านก็อ้างว่า ท่านพูดว่า “ตำรา” โดยเข้าใจว่าตำรา คือ “วิชา” ซึ่งบางครั้งตำราก็มิใช่ หมายความว่า เป็นวิชาด้วยเสมอไป มิฉะนั้น พระพุทธเจ้าก็คงไม่ตรัสแก่ชาวกาลามชนว่า “ปิฎก สัมปทาน” อย่าเชื่อเพราะอ้างว่ามีในตำรา หรือ “สมโณโน ครูติ” อย่าเชื่อเพราะเห็นว่าเป็นครู หรือเป็น อาจารย์ของเรา แต่ขอพูดถึง “วิชา” แล้วกลับมีพุทธภาษิตว่า “สุวิชาโน ภะวังโหติ ทุวิชชาโน ปราภโว” ซึ่งแปลว่า ผู้รู้วิชาเป็นผู้เจริญ ผู้ไม่รู้วิชาเป็นผู้ฉิบหาย ซึ่งตรงกับคำไทยโบราณที่กล่าวไว้ว่า “คุกขังคน ตำราขังปัญญา” ฉะนั้น ผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์ และเคยแต่งตำราเรียนเอาไว้มากมายมาตลอดชีวิต จึงเป็น ได้เพียง “นักตำราการ” เท่านั้น ไม่ใช่ “นักวิชาการ”
ดังได้กล่าวแล้วว่า หลักวิชา กำหนดขึ้นมาจาก กฎของความจริงแท้ มิใช่กำหนดขึ้นมาจากความ เห็นของบุคคล หลักวิชากำหนดขึ้นมาจกา ภววิสัย (Objective) ไม่ใช่ อัตวิสัย (Subjective) คือ กำหนดขึ้นมาจากสิ่งที่ดำรงอยู่จริง (Reality) ของธรรมชาติซึ่งเป็น สิ่งสัมบูรณ์ หมายถึง สิ่งที่มีอยู่ ด้วยตนเองไม่ต้องขึ้นกับสิ่งอื่นที่เรียกว่า สัมพัทธ์ ไม่มีใครสร้าง ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ดำรงอยู่อย่าง มีกฎเกณฑ์ มีแต่ผู้ไปค้นพบแล้วนำมาเปิดเผย เช่น นักปราชญ์และศาสดาทั้งหลาย เป็นต้น
ไพบูลย์ สถาปนาวิสุทธิ์
Day | Members | Gain | % Gain |
---|---|---|---|
June 11, 2024 | 255 | 0 | 0.0% |
March 13, 2024 | 255 | 0 | 0.0% |
January 23, 2024 | 255 | 0 | 0.0% |
December 09, 2023 | 255 | 0 | 0.0% |
November 01, 2023 | 255 | +1 | +0.4% |
October 02, 2023 | 254 | 0 | 0.0% |
September 02, 2023 | 254 | 0 | 0.0% |
August 05, 2023 | 254 | 0 | 0.0% |
July 04, 2023 | 254 | -1 | -0.4% |
April 08, 2023 | 255 | 0 | 0.0% |
March 13, 2023 | 255 | +1 | +0.4% |
January 22, 2023 | 254 | +1 | +0.4% |
December 23, 2022 | 253 | +3 | +1.2% |
October 15, 2022 | 250 | -2 | -0.8% |
July 17, 2022 | 252 | +1 | +0.4% |
June 28, 2022 | 251 | +1 | +0.4% |
June 01, 2022 | 250 | +1 | +0.5% |
April 29, 2022 | 249 | -1 | -0.4% |
April 08, 2022 | 250 | -1 | -0.4% |
March 09, 2022 | 251 | -3 | -1.2% |
November 18, 2021 | 254 | +6 | +2.5% |
November 07, 2021 | 248 | +4 | +1.7% |
November 05, 2021 | 244 | +1 | +0.5% |
October 31, 2021 | 243 | +186 | +326.4% |
August 19, 2021 | 57 | -1 | -1.8% |